ประเภทของตู้คอนเทนเนอร์ ที่ใช้สำหรับการขนส่งสินค้าทางเรือระหว่างประเทศ
Senior CatSenior Cat

ประเภทของตู้คอนเทนเนอร์ Dry/Reffer/Open Top/Flat Rack/ISO Tank



Senior SeagullSenior Seagull

วิดิโอแอนนิเมชั่นนี้ มีความยาวThis is 8:32 นาที

บทความนี้ คือ ประเภทของตู้คอนเทนเนอร์ ที่ใช้สำหรับการขนส่งสินค้าทางเรือระหว่างประเทศ

มาทำความรู้จักประเภทของตู้คอนเทนเนอร์ ว่ามีแบบไหน และขนาดเท่าไหร่กันบ้าง
เราขนส่งสินค้าหลากหลายชนิด อาทิ เช่น อาหาร สินค้าอุตสาหกรรม เคมีภัณฑ์ และสินค้าที่เราใช้ในชีวิตประจำวันไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก

ดังนั้น เราต้องเลือกตู้คอนเทนเนอร์ที่ดีที่สุดสำหรับการขนส่งสินค้าแต่ละชนิด สิ่งที่เราต้องคำนึง คือ ขนาด ประเภท และลักษณะของตู้ เพื่อให้เกิดการขนส่งที่สะดวก เหมาะสม และปลอดภัย กับสินค้าประเภทนั้น ๆ

อันดับแรก มารู้จักประเภทของตู้คอนเทนเนอร์กันก่อน

・Dry container
・Reefer container
・Open top container
・Flat rack container
・ISO tank container

ตู้แต่ละประเภท จะมี 2 ขนาด คือ ตู้ 20′ foot และ ตู้ 40′ foot containers
Foot ในทีนี้ หมายถึงความยาวของตู้ ดังนั้น ตู้ 20 foot มีความยาวประมาณ 6 เมตร และ ตู้ 40 ฟุต มีความยาวประมาณ 12 เมตร

เรามาดูความแตกต่างของตู้คอนเทนเนอร์แต่ละประเภท

อันดับแรกคือ Dry container
คือ ตู้คอนเทนเนอร์แบบทั่วไป ที่เหมาะสำหรับสินค้าทั่วไปที่ไม่ต้องการควบคุมในการขนส่งสินค้า

และใช้สำหรับการขนส่งสินค้าประเภทอันตรายเช่นกัน เราอยากให้ทางผู้อ่ารเข้าใจก่อน ว่าปกติแล้ว dry container คือขนาดของตู้คอนเทนเนอร์ขนาดมาตฐานที่ใช้กันอยู่ทั่วไป

ต่อไป คือ Reefer container ตู้ประเภทนี้ เป็นตู้สินค้าที่มีการติดตั้งเครื่องทำความเย็น และมีที่วัดอุณหภูมิเพื่อแสดงอุณหภูมิของตู้สินค้า ปกติแล้วอุณหภูมิจะอยู่ที่ -30 ถึง +30 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิภายในตู้คอนเทนเนอร์ สามารถเพิ่มขึ้นได้ถึง 60-70 องษาเซลเซียส จะใช้บรรจุสินค้าประเภทอาหารทะเลหรือสินค้าอันตรายที่ต้องควบคุมความเย็นตามอุณหภูมิที่เหมาะสม

ต่อไปคือ Open top container ตู้คอนเทนเนอร์ประเภทนี้มีขนาดใหญ่ โดยจะไม่มีหลังคา ออกแบบมาให้ด้านบนเปิดโล่ง เหมาะสำหรับขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถขนย้ายผ่านประตูตู้ได้ หรือสูงเป็นพิเศษ เช่น เครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม

ในการนำสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์จะใช้ เครนอุตสหกรรมในการเคลื่อนย้ายสินค้าเพื่อความปลอดภัยและป้องกันความเสียหายของสินค้า และในระหว่างการขนส่งจะมีการคลุมผ้าใบไว้เพื่อไม่ให้สินค้าได้รับได้รับความเสียหายจากฝน

ต่อไปคือ Flat rack container เป็นคอนเทนเนอร์แบบพื้นราบ ที่มีขนาดกว้างและยาวตามขนาดของตู้สินค้ามาตรฐาน เปิดโล่งทั้งด้านบนและด้านข้าง ออกแบบมาเพื่อบรรจุสินค้าลักษณะพิเศษ ทั้งที่กว้างเกินไป และสูงเกิน หรือสามารถบรรจุสินค้าที่มีขนาดไม่เกินพื้นที่ตู้คอนเทนเนอร์ได้เช่นกัน ตู้คอนเทนเนอร์ประเภทนี้ จะสะดวกต่อการโหลดสินค้า เพราะเป็นตู้เปิดโล่ง

และแน่นอนว่าราคาในการขนส่งสินค้าแบบ Open top and Flat rack containersก็จะสูงกว่าการจัดส่งในตู้แบบทั่วไปอย่างแน่นอน เนื่องจากใช้พื้นที่มาก และไม่สามารถวางซ้อนกันได้

ยกตัวอย่างเช่น ในการเคลื่อนย้ายสินค้าขึ้นบน Flat rack จะใช้พื้นที่กว้างยาวสูงเป็นพิเศษ
ดังนั้นค่าขนส่งสินค้าจึงมีราคาสูงมากกว่าปกติ

ส่วนในกรณีการใช้ Flat rack กับสินค้าที่ใช้พื้นที่บนเรือปกติ ค่าขนส่งสินค้าก็จะมีราคาต่ำกว่า

ลำดับสุดท้าย คือ , ISO tank container คอนเทนเนอร์ประเภท Tank ใช้กับสินค้าที่เป็นของเหลว เช่นไวน์ น้ำผลไม้ เคมีภัณฑ์ รวมถึงใช้สำหรับขนส่งสินค้าที่เป็นอันตรายได้อีกด้วย

ซึ่งในบางกรณีจะเหมาะสำหรับการใช้ ISO tank มากกว่าการใช้ถังน้ำ

ต่อไป จะอธิบายเกี่ยวกับขนาดของตู้คอนเทนเนอร์

อันดับแรกคือ 20’ foot container ซึ่งขนาดที่สามารถบรรจุสินค้าได้จริงคือ ขนาดภายในของตู้คอนเทนเนอร์
ขนาดของ 20′ foot container คือ ความกว้างและความสูงประมาณ 2.3 เมตร และ ความยาวประมาณ 6 เมตร

ขนาดของตู้คอนเทนเนอร์แต่ละสายเรือจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ควรตรวจสอบข้อมูลขนาดสินค้ากับทางผู้ให้บริการก่อน

สำหรับ 40′ foot container มีความกว้างและความสูงประมาณ 2.3 เมตร เหมือนกับตู้ 20 ฟุต แต่มีความยาวเป็นสองเท่าของตู้ 20 ฟุต คือ 12 เมตร

ต่อไป คือ Container ขนาด 40 ฟุตไฮคิวบ์ (40”HC)
ในตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุตแบบทั่วไป และแบบไฮคิวบ์จะแตกต่างกันที่ส่วนสูง คือ 2.7 เมตร

สามารถสรุปขนาดของตู้คอนเทนเนอร์ได้ ดังนี้
อย่างที่เราได้บอกไป ขนาดของตู้อาจจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย

โดยปกติแล้ว ความกว้างของตู้คอนเทนเนอร์ คือ 2.3 เมตร

6 เมตร คือ ความยาวของตู้ 20 ฟุต
12 เมตร คือ ความยาวของตู้ 40 ฟุต
2.7 เมตร คือ ความสูงของตู้ไฮคิ้วบ์

Open top จะไม่มีหลังคา
Flat rack จะไม่มีหลังคาและกำแพง

สำหรับน้ำหนักของสินค้าก็มีความสำคัญเช่นกัน

การขนส่งสินค้าทางเรือ น้ำหนักของสินค้าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในด้านความปลอดภัย
ในกรณีสินค้าที่มีขนาดไม่ใหญ่แต่มีน้ำหนักมาก เช่น เหล็ก เครื่องจักร ของเหลว น้ำ ข้าว เป็นต้น

ตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20’ foot และ 40’ foot containers สามารถโหลดสินค้าได้มากที่สุด 25 ตัน Please keep this in mind.

ตู้ 40 ฟุต ไม่ได้รับน้ำหนักได้เป็น 2 เท่าของตู้ 20 ฟุตอย่างที่หลายคนเข้าใจผิด จึงต้องบรรทุกน้ำหนักอย่างเหมาะสม เพื่อให้เกิดความปลอดภัย

สำหรับคุณภาพของตู้คอนเทนเนอร์จะเปลี่ยนไปตามประเภทของสินค้า

คอนเทนเนอร์จะถูกทำความสะอาดและซ่อมแซมอยู่ที่ลานเก็บตู้สินค้า และจะถูกแยกคุณภาพ เอ บี และซีไว้

ยกตัวอย่างเช่น การขนส่งสินค้าที่เน้นเรื่องสุขอนามัย เช่น อาหาร ยารักษาโรค สินค้าประเภทนี้จะต้องใช้ตู้คอนเทนเนอร์เกรดเอเท่านั้น
ตู้สภาพเกรด เอ คือ อยู่ในสภาพดีมาก ไม่มีรอยขีด ข่วน พื้นไม่ลอก และไม่มีกลิ่น

สำหรับตู้คอนเทนเนอร์เกรดซี อาจจะพบรอยรั่วบนหลังคา เพราะผ่านการใช้งานมาเป็นระยะเวลานาน
จะใช้กับสินค้าประเภทชิ้นส่วนเครื่องจักรหรือเศษโลหะ

หากคุณทำงานอยู่ในสายงานโลจิสติกส์หรือบริษัทเทรดดิ้ง จะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภท ขนาด ความแตกต่างของตู้คอนเทนเนอร์แต่ละประเภท เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับการทำธุรกิจของตัวคุณเอง